เรื่องน่ารู้ในการใช้ฮอร์โมนทดแทนสำหรับผู้หญิงวัยทอง
การใช้ “ฮอร์โมนทดแทน” ในผู้หญิงวัยทองและผู้หญิงที่ตัดมดลูกหรือรังไข่ทิ้งจะเป็นอย่างไรและเพื่ออะไร?
“วัยทอง” เมื่อย่างเข้าสู่อายุ 49- 50 ปีขึ้นไป ก็ถือว่าเข้าสู่ช่วงวัยทองอย่างเต็มตัว เมื่อถึงวัยนี้ รังไข่จะหยุดทำงาน ไม่มีการตกไข่ ทำให้ไม่มีประจำเดือนอีกต่อไป ส่งผลให้ไม่มีการสร้างฮอร์โมนเพศหญิงจากรังไข่ ทำให้ฮอร์โมนเพศหญิงที่สำคัญขาดหายไปคือ ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก
สตรีที่ได้รับการผ่าตัดมดลูกหรือรังไข่ทิ้ง สตรีในกลุ่มนี้ก็จะมีอาการวัยทองแม้อายุจะไม่ถึง 49 ปีขึ้นไปก็ตาม เพราะมีการตัดรังไข่หรือมดลูกทิ้งไปแล้วเนื่องจากโรคที่ป่วย หรือประสบอุบัตติเหตุ หากตัดรังไข่ทิ้งไปก็จะหยุดการมีประจำเดือนไม่มีการสร้างฮอร์โมนเพศหญิงจากรังไข่เหมือนสตรีวัยทอง ดังนั้นจึงมีความจำเป็นมากที่จะต้องได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ทดแทนด้วยเช่นกัน หากเป็นสตรีที่อายุน้อยก็จำเป็นที่จะต้องได้รับฮอร์โมนทดแทนอย่างทันถ่วงที เพื่อไม่ให้เกิดอาการ กระดูกพรุน เยื้อบุโพรงมดลูกหนาตัวในรายที่ยังไม่ตัดมดลูกทิ้งไป
ลองมาดูกันสิว่าการรับฮอร์โมนทดแทนมีอย่างไรกันบ้าง?
การรักษาอาการวัยทองโดยการทานฮอร์โมนทดแทน
การรักษาอาการวัยทองนั้น ทำได้โดยการใช้ฮอร์โมนทดแทนแบ่งตามลักษณะการใช้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือการใช้ ฮอร์โมนเอสโตรเจนอย่างเดียว และการใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนรวมกัน
1. การใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนอย่างเดียว ส่วนใหญ่ก็จะนิยมใช้ที่สกัดมาจากธรรมชาติ หรือ Bio- Identical Hormone การให้ฮอร์โมนชนิดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ตัดรังไข่ทั้ง 2 ข้างทิ้งแล้ว ซึ่งการใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนเพียงอย่างเดียวจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคหัวใจ แต่ข้อเสียทำให้เกิดโรคมะเร็งมดลูกได้สูง โดยการให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนทดแทนนั้น จะมาในหลายรูปแบบ เช่นเป็นยาเม็ดรับประทาน ซึ่ง แผ่นแปะ ครีมเจล หรือสอดทางช่องคลอดซึ่งจะเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการช่องคลอดแห้ง ซึ่งการให้ฮอร์โมนทดแทนนั้นก็แล้วแต่แพทย์จะ พิจารณาตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละคนไป
2. การใช้ฮอร์โมนรวม เป็นฮอร์โมนที่ประกอบด้วยเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนรวมกัน เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ยังมีมดลูกอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว ซึ่งถ้าหากเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งของเยื่อบุโพรงมดลูกได้ ซึ่งการใช้ฮอร์โมนรวมจะแบ่งเป็น 2 แบบ
– ชนิดที่ใช้เป็นรอบๆ (Cyclic regimen) คือการให้เอสโตรเจน 21 วัน และ 12 วันหลังจะให้ทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนรวมกัน และจะมีชาวงเว้นไม่ต้องใช้ฮอร์โมน 7 วัน เพื่อให้ประจำเดือนมา เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยใกล้หมดประจำเดือน
– ชนิดที่ใช้ต่อเนื่อง (Continuous combined regimen) โดยจะใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนร่วมกัน ซึ่งจะใช้ในปริมาณเท่าๆกันเพื่อให้ไม่มีประจำเดือนอีก เหมาะกับสตรีที่หมดรอบเดือนมากว่า 1 ปีขึ้นไป
ซึ่งการรับฮอร์โมนทดแทนนั้นจะต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ และผู้ป่วยต้องหมั่นไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลการรักษา นอกจากการรับฮอร์โมนทดแทนแล้วก็ควรทานอาหารที่มีประโชน์กับร่างกาย พวกผักใบเขียว พืชตระกูลถั่ว อย่างถั่งเหลือง เต้าหู้ ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินที่ช่วยเพิ่มฮอร์โมนสตรีได้
ระยะเวลาที่ควรจะให้ฮอร์โมนทดแทน
แพทย์แนะนำว่าควรจะให้ฮอร์โมนทดแทนให้เร็วที่สุดเพื่อเริ่มก้าวเข้าสู่วัยทอง เพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุน โรคหัวใจและสมองให้ได้ผลดี หากได้รับฮอร์โมนทดแทนช้าเกินไป อาจทำให้ช่วยรักษาหรือทดแทนได้ไม่ทันท่วงถี่ แต่ควรต้องไม่ใช้ยาเกิน 10 ปี เนื่องจากการได้รับฮอร์โมนทดแทนมีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้
อาการข้างเคียงของการใช้ฮอร์โมนทดแทน
• มีเลือดออกทางช่องคลอด พบได้ในช่วง 3-6 เดือนแรกที่เริ่มใช้ฮอร์โมนทดแทน และเมื่อใช้ฮอร์โมนทดแทนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอร่างกายปรับตัวรับต่อยาได้ อาการดังกล่าวก็จะหายไป
• มีอาการปวดศรีษะ ไมเกรน
• มีอาการเจ็บที่เต้านม แต่จะมีอาการเจ็บคัดในช่วงแรกที่ใช้ฮอร์โมนทดแทนเท่านั้น หลักจากนั้นอาการปวดก็จะลดลงและหายไปเอง
จะเห็นได้ว่าการทานฮอร์โมนทดแทนก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนั้นการทานฮอร์โมนทดแทนไปนาน ๆก็มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเช่นกัน
อีกหนึ่งตัวช่วยอย่าง มีสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาการวัยทอง อย่างเช่น ตังกุย พริกไทยดำ เป็นต้น ซึ่งสามารถทานควบคู่ไปกับฮอร์โมนเพื่อลดอาการข้างเคียงของการใช้ฮอร์โมนทดแทนในสตรีวัยทองและสตรีที่ตัดรังไข่และมดลูกทิ้งไปแล้วได้ดี ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายตัว ไม่หงุดหงิดง่าย ช่วยปรับและเพิ่มฮอร์โมนสตรีภายในร่างกายให้สมดุลขึ้น สามารถทานยาสตรีแพนเค้กควบคู่ไปกับการรับฮอร์โมนทดแทนได้อย่างปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงหากรับประทานติดต่อกันไปนานๆ เพราะยาสตรีแพนเค้กเป็น ยาสมุนไพรสตรีแท้สกัดจากธรรมชาติ จึงไม่ส่งผลต่อ ตับ ไต หรือทำให้อ้วนคะ
เรื่องน่ารู้ในการใช้ฮอร์โมนทดแทนสำหรับผู้หญิงวัยทอง,